เมนู

อาศัยจักษุ หรือวิญญาณเกิดแต่จักษุ. โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหา-
วิญญาณและกายวิญญาณก็เหมือนกัน. แต่อีกวิญญาณหนึ่ง ชื่อว่า มโน-
วิญญาณ เพราะอรรถว่าวิญญาณคือใจ. คำนี้เป็นชื่อของวิบากจิตที่เป็นไป
ในภูมิ 3 ที่เว้นทวิปัญจวิญญาณ.
ใน

สังขารนิเทศ

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
สังขารมีการปรุงแต่งเป็นลักษณะ ก็ในการจำแนกสังขารนั้น มี
อธิบายดังนี้ สังขารที่เป็นทางกาย ชื่อกายสังขาร. คำว่า กายสังขารนี้
12 ที่เป็นไปด้วยอำนาจไหวกายทวาร. คำว่า วจีสังขารนี้ เป็นชื่อแห่ง
วจีสัญเจตนา 20 เหมือนกัน ที่เป็นไปด้วยอำนาจการเปล่งวาจาในวจี-
ทวาร. สังขารที่เป็นไปทางจิต ชื่อว่าจิตตสังขาร. คำว่า จิตตสังขาร นี้
เป็นชื่อแห่งมโนสัญเจตนา 29 คือกุศลจิต 17 อกุศลจิต 12 อันเป็น
ฝ่ายโลกิยะ ที่เป็นไปแก่บุคคลผู้ไม่ทำการไหวในกายทวารและวจีทวาร
นั่งคิดอยู่ในที่ลับ.
ใน

อวิชชานิเทศ

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ทุกฺเข อญาณํ ได้แก่ความไม่รู้ในทุกขสัจจะ คำนี้เป็น
ชื่อของโมหะ. ในคำว่า สมุทเย อญาณํ เป็นต้น ก็นัยนี้เหมือนกัน.
ในสัจจะ 4 นั้น พึงทราบความไม่รู้ในทุกขสัจจะด้วยเหตุ 4 คือ โดย
ภาวะที่หยั่งลงในภายใน โดยวัตถุ โดยอารมณ์ และโดยการปกปิด.
จริงอย่างนั้น ความไม่รู้นั้น ชื่อว่าทุกขสัจจะ เพราะหยั่งลงในภายในทุกข์
เพราะนับเนื่องในทุกขสัจจะ ชื่อว่าเป็นวัตถุ เพราะเป็นนิสสยปัจจัยแห่ง
ทุกขสัจจะนั้น ชื่อว่าเป็นอารมณ์ เพราะเป็นอารัมมณปัจจัย ความไม่รู้นั้น